วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

ประโยชน์การวิ่งช้า

การวิ่งช้ายังมีประโยชน์อีกมาก สำหรับการวิ่งมาราธอนทุกระยะ ตั้งแต่ 3km 5km 10km 21km 42km หรือ 100km เพราะทุกระยะส่วนใหญ่จะวิ่งอยู่ใน Aerobic มากกว่า 80% ของการวิ่ง

นักวิ่งหน้าใหม่ พยายามทำความเร็วหรือหลงชื่นชอบในความเร็ว แต่ลืมดูหัวใจเต้นสูงจนแทบชนเพดาน (Zone5) มีให้เห็นเยอะมาก
เพราะเข้าใจผิดคิดว่าการวิ่งเร็วคือต้องวิ่งแบบให้เหนื่อยสุดแรง ทุ่มสุดตัว แต่จริงๆแล้วการฝึกที่ถูกต้องกลับเป็นการ ต้องฝึกวิ่งช้าก่อน

มีคำกล่าวว่า วิ่งช้าดีต่อใจ นั้นไม่ผิดเลย การฝึกวิ่งช้ามาพัฒนาการวิ่งเร็วได้อย่างไร?
การวิ่งเป็นการใช้พลังงานจากไมโตรคอนเดียโดยเลือดจะลำเลียงออกซิเจนให้ หัวใจจะเป็นผู้บีบเลือดส่งให้ดังนั้น
ถ้าพลังงานไม่พอ การเต้นของหัวใจจะเต้นเร็วขึ้น ยิ่งหัวใจเต้นเร็วเราก็จะเหนื่อยหอบเพราะออกซิเจนถูกนำไปใช้เพื่อวิ่งซะส่วนใหญ่
จนพูดไม่ได้นั้นก็เป็นอาการทางกายที่ร่างกายรักษาสมดุล การวิ่งช้าจะเป็นการเพิ่มปริมาณเลือดที่ปั๊มในหัวใจต่อครั้งให้สูงขึ้น (Stroke Volumn)
หรือจะบอกว่าวิ่งช้าทำให้ขยายขนาดรองรับเลือดที่หัวใจเยอะขึ้นก็ได้
พอค่า Stroke Volumn สูงขึ้นจากการวิ่งช้าเป็นเวลานานๆ ทำให้การปั๊มเลือดของหัวใจ 1 ครั้งได้ปริมาณเลือดมากขึ้น

ทำให้เมื่อร่างกายต้องการพลังงาน หัวใจก็ไม่จำเป็นต้องเต้นเร็วตูมตาม คือ หัวใจแข็งแรงครับ

วิ่งช้า ปัจจุบันนักวิ่งจะเรียกกันว่าวิ่ง Zone2 คือวิ่งเร็วระดับที่หัวใจทำงานอยู่ใน Zone2
การวิ่ง zone2 สามารถพัฒนาสร้างเส้นเลือดฝอยที่กล้ามเนื้อแดงได้เยอะขึ้น ยังช่วยให้หัวใจแข็งแรง
วิ่งก็เหนื่อยน้อยลง การหายใจก็ราบรื่น ระบบไหลเวียนดี ความอึดและทนทาน Endurance จะเพิ่มขึ้นเองเมื่อเพิ่มระยะเวลาการฝึกวิ่งช้าในแต่ละครั้งออกไป เหมาะกับการฝึกไปมาราธอน 
ถ้าเป้าหมายต่อไปคือการพัฒนาเพื่อจะวิ่งเร็วก็จะง่ายขึ้นเยอะ

แต่โดยสรุป สิ่งที่สำคัญที่สุด อาจไม่จำเป็นต้องรับรู้เรื่องดังกล่าวเลย
สิ่งที่ต้องรู้คือ
1. การวิ่งแบบไหนทำให้เราได้ประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาวไปตลอดจนแก่หรือตาย
2. วิธีที่ถูกต้องอย่างไรที่ทำให้เราไปถึงเป้าหมาย โดยมีความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บน้อยที่สุด

@likerunner

การจัดการพลังงานในการวิ่ง

การจัดการพลังงานในการวิ่ง  วิ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน แคลอรี่ปริมาณมากน้อย ก็ขึ้นกับระยะทางที่วิ่ง และ ความเร็วที่วิ่ง และยังมีปัจจัยเ...