วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

วิ่งเพื่อลดน้ำหนัก หนีโรคร้าย

สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก
ปกติผมจะใช้ค่าดัชนีมวลกาย BMI (Body Mass Index) เพื่อชี้ชัดว่าอ้วนเกินไปหรือผอมเกินไป ค่า BMI ของผมเท่ากับ 21.88 เป็นค่าปกติพอดี โดยคำนวณมาจากความสูง171cmและน้ำหนัก64kg (ลองหาสูตรตาม internetดูนะครับ)
ค่า BMI สูงก็จะบอกว่ามีจำนวนไขมันในร่างกายสูง เรียกว่าอ้วน ทำให้มีโอกาสเป็นโรค ความดัน เบาหวาน ไขมัน และ หลอดเลือดหัวใจ
การวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก จึงเป็นที่นิยมจะชี้ให้เห็นวิธีการที่จะลดน้ำหนักให้สำเร็จ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการวิ่งกับคนที่อ้วนเป็นเรื่องที่เริ่มต้นไม่ง่ายเลย เพราะว่าพอออกมาวิ่งก็มักจะบาดเจ็บ เจ็บขา เจ็บเข่า รบกวนตลอดจนเลิกวิ่งไป

จึงต้องเริ่มต้นจากการออกกำลังกายโดยการบริหารสร้างกล้ามเนื้อ และ ข้อต่อให้แข็งแรงสักระยะก่อน อย่างน้อยก็2เดือน ง่ายๆก็ลองหาท่าวอร์มก่อนวิ่งทำสัก 10นาที แล้วก็ออกไปเดินสัก 10นาที เสร็จก็กลับมาวอร์มอีกสัก 10นาที
ทำสม่ำเสมอ อย่างน้องสัปดาห์ละ 3วัน ในแต่ละสัปดาห์ค่อยๆเพิ่มปริมาณโดยการขยายเวลาออกไปจาก 10นาที เป็น 11นาที ในทุกๆขั้นตอน จนสามารถทำได้ถึง 15นาที ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะเริ่มฝึกวิ่ง ต้องใช้ความมีวินัยและความอดทน แต่การค่อยเพิ่มปริมาณจะทำให้การออกกำลังกายต่อเนื่องไม่บาดเจ็บจะเห็นผมดีกว่า และ ไม่หนักเกินจนเลิกไป

มีสิ่งที่ต้องรู้เรียนรู้เรื่องการใช้แคลลอรี่และการทานอาหารเพื่อให้แคลลอรี่ที่เข้าร่างกายไม่เยอะเกินกว่าแคลลอรี่ที่ใช้
ปกติร่างกายจะใช้แคลลอรี่ในขณะทำงาน ในขณะพัก และ ในขณะออกกำลังกาย
ปกติร่างกายจะรับแคลลอรี่จากการทานอาหารเข้าไป
ผู้ที่จะลดน้ำหนัก ต้องทำให้เข้ากับออกสมดุลกันไม่ต่างกันเกินไป
ทานเยอะไปก็ยิ่งอ้วน ออกกำลังกายเยอะไปก็ไม่ดีต่อร่างกาย คือต้องไม่ให้ต่างกันเกิน 500Calต่อวัน การวิ่ง 1กม.อาจจะใช้ไป70Cal ดูน้อยดังนั้นการลดน้ำหนักจากการวิ่งที่ถูกต้องคือต้องค่อยๆลด ไม่ใช่วิ่งเยอะๆไกลๆเพื่อให้ลด Calเยอะๆ ร่างกายจะรับไม่ไหวและจะเกิดอาการที่เรียกว่าโยโย่คือเดี๋ยวผอมโทรมแล้วก็กลับมาอ้วนอีก การวิ่งแบบค่อยๆเพิ่มปริมาณสัปดาห์ละไม่เกิน10%ร่วมกับการทานอาหารที่เลือกให้ครบห้าหมู่ งดอาหารทอด งดไส้กรอก เลิกน้ำอัดลมจะช่วยได้ดีมาก อย่าเลือกที่จะอดอาหาร อาจใช้การลดปริมาณข้าวขาว เปลี่ยนเป็นข้าวกล้องแทน ทานปลานึ่งแทนปลาทอด เป็นต้น

พอร่างกายผ่านการฝึกดังที่กล่าวตอนต้นสัก 2-3เดือนแล้ว จะเริ่มการวิ่งกันครับ
การวอร์มก่อนและหลังยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เราจะเพิ่มการวิ่งเข้าไปผสมกับการเดินที่ปกติเดิน 15นาที ก็อาจะเปลี่ยนเป็น วิ่งช้าๆ 1นาที เดิน 1นาที ทำสลับไปจนครบ 15นาที เหมือนเดิม (ไม่ยากขึ้นเท่าไหร่) พอสัปดาห์ต่อๆไปให้เพิ่ม การวิ่งเข้าไปทีละ 10% คือ 1นาทีก็เปลี่ยนเป็น 1นาที10วินาที ประมาณๆเอาก็ได้ครับ
ส่วนการเดินผสมทำเท่าเดิมคือ 1นาที ทำไปเรื่อยๆ เพิ่มปริมาณสัปดาห์ต่อๆไปจนสามารถทำได้ถึง วิ่ง5นาทีสลับเดิน1นาที ก็ให้เพิ่มระยะเวลาจากเดิมที่เคยทำรวม 15นาทีก็ค่อยๆเพิ่มเป็น 16นาที 17นาที ไปจนทำได้ถึง 30นาที
วิ่ง 5นาที สลับเดิน 1นาที ทำ 5รอบก็จะได้ 30นาทีพอดี ฝึกบ่อยๆก็อาจยกเลิกการเดินออกจนเหลือแต่วิ่งอย่างเดียว 30นาที เลยก็ได้
(ระดับความเร็วในการวิ่งคือ zone 2-3 คือประมาณว่าวิ่งแล้วยังพอพูดคุยประโยคสั้นๆได้บ้าง อย่าวิ่งเร็วกว่านี้เพราะ ที่ zone 2-3จะใช้ไขมันได้เยอะคุ้มค่าที่สุด ถ้าวิ่งเร็วจะกลายเป็นเสียกล้ามเนื้อแทน แถมจะปวดเมื่อยวันรุ่งขึ้นประจำอีก)
การฝึกแบบนี้อาจจะใช้เวลา 4-6เดือนเลยทีเดียว แต่จะเริ่มเห็นผลแบบเกินคาดแน่นอน อาทิน้ำหนัก 80 อาจลดลงมาเหลือ 60 ภายในอีกไม่กี่เดือน

การฝึกวิ่งถึงตรงนี้ เป็นจุดที่นักวิ่งจะเริ่มมีความสุขทั้งทางกาย ทางใจมาก จนจะมีอาการติดวิ่ง ให้ระวังเพราะถ้าเพิ่มปริมาณมากจะเกิดการ overtraining และน้ำหนักจะลงเร็วมากจนเกิดการเหี่ยวย่น ซึ่งจะเป็นปัญหาที่ต้องมาแก้ไขอีก
นักวิ่งบางคนเกิดปัญหาน้ำหนักตัวลดแบบไม่หยุดจนต้องหยุดวิ่งก็มีเยอะ
นักวิ่งที่มาถึงจุดนี้ แค่รักษาวินัยการฝึกให้ไม่ต่ำกว่า 3-4ครั้งต่อสัปดาห์
แล้วก็เลิกคิดเรื่องการลดน้ำหนัก หันมาคิดเรื่องการวิ่งเพื่อให้ร่างการแข็งแรงแทน
ความสนุกจะเริ่มต้นจากตรงนี้ และจะทำให้การวิ่งเป็นกิจวัตรที่สามารถทำได้โดยไม่ได้ลำบาก ไม่ต้องฝืนทนวิ่งต่อไป สนุกกับการวิ่งแล้วก็อาจจะเริ่มหางานวิ่งแบบ fun run 5km ลงได้เลย รับรองว่าจะวิ่งจบแบบสบายๆ
ป้ายต่อไปก็จะเป็น 10.5km ก็ต้องฝึกวิ่งแบบนักวิ่งจริงๆละครับ
เพื่อนคนไหนอยากลดน้ำหนักแบบว่าตั้งใจจริงๆจัง ติดต่อผมได้ยินดีให้คำแนะนำฟรีครับ

ยาวไปหน่อยนะครับว่าจะเขียนสั้นๆ ชวนให้ไปหาข้อมูลต่อกันเอง
พอดีเรื่องนี้ต้องลงรายละเอียดเรื่องการฝึกครับ

ใครกำลังลดน้ำหนักดูเลยครับ 2 ปีลงได้เปลี่ยนไปเลย
https://spicee-th.net/8769/?fbclid=IwAR1dA-HCiRd8ZROYxJcfA1II7zAF3tcXHV7Rm339IZDGlPubT5Ro6_FayD8

@likerunner

การจัดการพลังงานในการวิ่ง

การจัดการพลังงานในการวิ่ง  วิ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน แคลอรี่ปริมาณมากน้อย ก็ขึ้นกับระยะทางที่วิ่ง และ ความเร็วที่วิ่ง และยังมีปัจจัยเ...